Wednesday, 29 October 2014

Pack and Send


Hello,

Today I will give an update on the post Problems about flight tickets, more specifically about sending our baggage from Sydney to Brisbane.

Just as a refresher

We have tickets from São Paulo to Sydney and we are taking a lot of stuff with us. As our final destination is Brisbane, we will need to get also a domestic flight. The problem is: domestic flights usually have more restrictive baggage policies than international flights. As a result, we need to find a way to take our stuff from Sydney to Brisbane.



An advice from a friend

Flávio Moreira, a friend of mine who has lived in Australia for a while, recommended me to look for companies able to provide baggage shipment services in a place called Kings Cross. That district is a inner-city locality in Sydney where backpackers usually stay. So finding the kind of service I need there seems to be natural, although I am not a backpacker.

An alternative way


I found a company called Pack and Send. They can pick your package and take to wherever you need it. They can provide door-to-door service or you can take your to one of their service centers.

It is possible to request a quote on their website.

https://online.packsend.com.au/PersonalisedQuote/Frt

I requested a quote considering the shipment of a 30 Kg suitcase from Sydney to Brisbane. They gave me a estimation of AUD 100.00.

The straightforward way


After a lot of consideration, it turns out that the easiest and cheapest way of sending our luggage was dropping them whilst doing the check-in for the flight. We booked tickets from Tigerair and added 30 Kg of prepaid baggage (AUD 30.00) to each of our tickets. As a result, we dispatched 90 Kg of luggage for AUD 90.00.

Conclusion


It is good to have options and to take all of them in account. In our specific case, the best choice for sending our stuff was dispatching them in the same flight we took. However, this option imposes restrictions on the size and weight of the dispatched items. So, depending on what you want to send, it may be better to use alternative services such as Pack & Send.

Cheers!

Friday, 17 October 2014

อาหารการกินของคนบราซิล


Churrasco บาบิคิวสไตล์บราซิล



        เริ่มต้นด้วยมื้อเช้า คือ café da manhã (คาแฟ ดิ มางง่า) คล้ายๆกับอาหารเช้าทางฝั่งยุโรปทั่วไปชาวบราซิเลี่ยนนิยมทานขนมปังฝรั่งเศษ แฮม ชีส หรือ ซาลามี เป็นอาหารเช้า น้ำผลไม้ กาแฟ ผลไม้ ซึ่งขนมปังฝรั่งเศสจะนิยมซื้อ วันต่อวัน ถ้าหากซื้อไว้ค้างคืนจะแข็งมาก บราซิเลี่ยนนิยมซื้อแบบอุ่นจากเตา (ใครกินอะไร ก็ช่างเขา เราคนไทยก็ยังกินข้าวอยู่ ^_^ )

Café da manhã.

        มื้อกลางวัน almoço (อัลโมซู)มื้อกลางวันเป็นมื้อหนัก สำหรับบราซิเลี่ยน ร้านอาหารส่วนใหญ่จะขายแบบอาหารชั่งกิโล และก็มีแบบบุ๊ฟเฟ่ หรือสั่งจากเมนู มีอาหารให้เลือกมากมาย หลากหลายชนิด ทั้ง ข้าว แกง พาสต้า สลัดผักต่างๆ อาหารทอด เนื้อบาบิคิว ซูชิ ผลไม้ ของหวาน ถ้าจะทานให้อิ่ม ๆก็ ราคาของอาหารชั่งกิโลจะประมาณ R$ 20 (260บาท) อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านิดหน่อย ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่ม

ภาพร้านอาหารชั่งกิโล

ภาพจากร้านอาหารชั่งกิโล

ภาพอาหารชั่งกิโล

ผลไม้ ก็ชั่งกิโลด้วยจ้า
Arroz com feijão, farofa, bife e batatas fritas.
                    อาหารตามสั่งของบราซิลหน้าประมาณนี้ จะมีรูปเมนูให้เลือก จานนี้ประมาณ R$20 หรือ 260 บาท
     


        มารู้จักอาหารหลักสำคัญ ของบราซิล คือ ข้าวหุงแบบไม่เช็ดน้ำ หุงบนเตาแก๊ส เราก็เรียนรู้จากแม่ย่า เป็นคนสอน แต่เราจะมาแนะนำ feijão (เฟ เจา) เฟเจาหมายถึงถั่ว มันคือซุปถั่วข้นๆ มีหลากหลายชนิด แต่ที่เป็นที่นิยมมากๆ ร้านอาหาร สไตล์บราซิลมีทุกร้าน คือ ซุปถั่วดำ ซุปถั่วน้ำตาล ในซุปไม่ได้มีแต่ถั่วอย่างเดียวนะ สามารถใส่ เบคอน ไส้กรอก หางหมู เท้าหมู หูหมู ลิ้นหมู กระดูกหมู กระดูกวัว รสชาติก็อร่อยดี ราดบนข้าว ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเราคงจะเป็นเหมือนน้ำพริก ต่าง คนไทยขาดน้ำพริกไม่ได้ฉันใด บราซิเลี่ยนก็ขาดน้ำพริกมิได้ ฉันนั้น

 feijãoสีน้ำตาล

 feijãoสีดำ ใส่ไส้กรอก

    Churrasco และอย่างที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของบราซิลคือ บาบิคิว หรือ Churrasco บาบิคิวของที่นี่ ใช้เนื้อสัตว์ เช่น  เนื้อวัว เนื้อไก่ และไส้กรอก หัวใจไก่ แต่ไม่นิยม ทำบาบิคิวหมู เนื้อชิ้นใหญ่ๆ เอามาเสียบเหล็กโรยเกลือและย่าง เนื้อที่นี่อร่อยมากและนุ่ม บาบิคิว จะมีในร้านอาหารทั่วไป และยังนิยมทำเวลามีงานเลี้ยง และสิ่งที่กินคู่กับบาบิคิว คือ Farofa(คิดถึงน้ำจิ้มรสเด็ดของไทยๆ)
Churrasco
Churrasco.
Farofa (ฟา รอ ฟา) ทำมาจาก ข้าวโพด หรือมันสำประหลัง แป้งจะคล้ายๆเกล็ดขนมปัง ใน farofa จะมีเบคอน ไข่ต้ม หัวหอมใหญ่ แครอท มะกอกดอง ข้าวโพด ไส้กรอก ลูกเกด และ ผักคะน้าผัด ใส่รวมไปด้วย เข้ากันกับบาบิคิว มากๆ
Farofa.

Farofa.

Moqueca (โม เค คา) เป็นอาหารจากทางภาคเหนือของบราซิล สีสันจัดจ้าน เพราะจะมีน้ำมันเฉพาะสำหรับMoqueca คล้ายน้ำมันจากน้ำพริกเผา รสชาติจัดจ้าน นิยม นำเนื้อสัตว์ทะเล กุ้ง ปลา ปู มีสองชนิด แบบซุป และแบบแห้ง ห่อใบตอง เห็นแล้วเราตั้งชื่อให้ว่า ห่อหมกบราซิล

Moqueca กุ้ง 

Moqueca แบบแห้ง เหมือนห่อหมกเลย 

Televisão de cachorro (frango assado) เอาแบบความหมายตรงตัวเลยนะ มันคือ โทรทัศน์ของน้องหมานั่นเอง televisão de cachorro คือตู้ใส่ไก่หมุน หรือไก่ย่าง เหมือนไก่ย่าง5ดาวของเรา จะมีขายส่วนใหญ่ในวันเสาร์อาทิตย์ หน้าเบเกอรี่ หรือร้านขายเนื้อ น้องหมาจะได้กลิ่นหอมๆของไก่ นั่งมองไม่ไปไหนเลย (น่าสงสารจัง)

Televisão de cachorro (frango assado).

Frango assado หน้าร้านเบเกอรี่

        มาดูวัสถุดิบที่เราคิดว่าแปลกๆ ทีชาวบราซิเลี่ยนนำมาทำอาหาร
        Bacalhau (ปา คา เยา) หรือปลาคอด เป็นปลาเค็ม ขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป กลิ่นก็เหมือนปลาเค็มของไทย ส่วนรสชาติ ก็เค็มจับใจ ก่อนปรุงอาหารต้องล้างน้ำ หลายๆรอบ และต้ม ทำซ้ำจนกว่ารสชาติจะหายเค็มน้อยลง นิยมนำมาทำ bolinho de bacalhau หรือ fish cake ในภาษาอังกฤษ หรือทำเป็นไส้พาสเทลก็อร่อยเช่นเดียวกัน

Bacalhau วางขายในซุปเปอร์มาเก็ต

bolinho de bacalhau คล้ายทอดมันปลาของไทย
        Palmito (ปา มิ โต) คือยอดปาล์มชื่อว่าอะไซ (açaí) รูปร่างจะคล้ายๆ ยอดมะพร้าว นิยมต้มให้สุกและทานเป็นผักสลัด หรือทำบาบิคิวยอดปาล์ม รสชาติอร่อย ออกเปรี้ยวนิดๆ และราคาค่อนสูงกว่าผักชนิดอื่น หาซื้อได้ง่าย ตามซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้าทั่วไป

Palmito ตอนยังไม่ปอกเปลือก ดูเหมือนหน่อไม้
Palmito

Palmito 1 ขวดใหญ่ประมาณ R$20หรือประมาณ 260 บาท

         Jantar (จันตาร)อาหารมื้อค่ำ มื้อนี้ไม่ขอลงภาพประกอบเพราะจะคล้ายๆกับมื้อกลางวัน แต่มื้อนี้อาจจะเบาๆ กว่ามื้อกลางวัน ก็จะได้แก่ พิซซ่า แอมเบอร์เกอร์ เนื้อบาบิคิว หรือ สเต็ก พาสต้า บราซิเลี่ยนจะไม่นิยมกินเยอะในมื้อค่ำ อาจจะมีเบียร์เป็นเครื่องดื่ม

        บราซิลมีร้านอาหาร หลากหลายสไตล์ เช่นร้านสเต็ก ร้านพาสต้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารจีน ร้านอาหารอาหรับ ร้านฟาสฟู๊ด ร้านบาบิคิว และบราซิเลี่ยนนิยม ออกไปทานอาหารนอกบ้าน อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในวันสุดสัปดาห์

Thursday, 16 October 2014

ของหวาน อาหารว่าง ของชาวบราซิเลี่ยน


        ชาวบราซิลจะชอบทานขนมหวานมาก จะมีร้านเบเกอรี่มากมาย เปรียบเหมือนร้านโชว์ห่วยบ้านเรา ขนมของบราซิลถ้าเป็นของหวานจะหวานมากๆ ถ้าเค็มก็ถือว่าเค็มมาก ลองไปดูกันว่ารูปร่างหน้าตาขนมบราซิลเป็นอย่างไร


        Pão de queijo มีชื่อเสียงที่สุด คงจะเป็น เจ้าขนมปังชีส ทีรูปร่างคล้ายขนมผิงของไทย แต่รสชาติแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รสชาติจะเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นชีส กรอบนอก นุ่มหนึบหนับด้านใน คนรักชีส ไม่ควรพลาด 


Pão de queijo.




 Docinhos หรือขนมหวาน ลูกกลม เครือบช็อคโกแลต หรือตกแต่งด้วย เม็ด ช็อคโกแลตสี สีสันสดใส มีหลากหลายชนิด เช่น Beijinho, Brigadeiro , Olho-de-sogra แต่ทุกชนิดนั้น จะหวานมาก นิยมเป็น ของหวาน ในวันเกิด หรืองานเลี้ยงต่างๆ

Brigadeiro.

Brigadeiro com confeitos.

Olho-de-sogra.

Brigadeiro no copinho.

                 

      Docinho de leite ninha หน้าตาเหมือนขนมลูกชุบ แต่รสชาติแตกต่าง Docinho de leite ninha  ทำมาจาก น้ำตาลไอซิ่ง นมผง และกะทิ 





        Bolo (โบ โล) หรือขนมเค้กนั่นเอง ขนมเค้กที่บราซิลก็เหมือนขนมเค้กโดยทั่วไป แต่ขนมเค้กที่เราคิดว่าอร่อย และ ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ก็คงจะเป็นเค้กมันสำประหลัง (Bolo de Mandioca, Bolo de Aipim) ตัวเค้กจะมีความเหนียว นุ่มหนึบหนับ อร่อยลงตัว รสชาติคล้ายๆขนมบ้าบิ่นของไทย

Bolo de mandioca.

Pamonha (ปา โม ญา)หรือข้าวโพดห่อกาบของไทยนั่นเอง ปาโมญาสามารถหาซื้อได้ ตามตลาดนัด หรือ ร้านขาย บริเวณห้างสรรพสินค้า ทั่วไป 1 ห่อราคาประมาณ R$ 3.5 หรือ ประมาณ45 บาท

Pamonha.

Sovete de açaí คือ ไอศครีมอะไซ ผลไม้จากทวีปอเมริกาใต้ ลูกอะไซจะลูกกลมๆ เล็ก สีม่วง คล้ายลูกหว้า รสชาติหวานๆ ออกจะรสฝาดๆเล็กน้อย ได้กินตอนอากาศร้อนๆ ชื่นใจสุดๆ

Açaí.
Sorvete de açaí.
Tapioca (ตา-ปิ-ญอค-ก้า) หรือแพนเค้กจากแป้งมันสำประหลัง แล้วมีทั้งใส้หวาน ใส้เค็ม นิยมกินเป็นของทานเล่น อาหารว่าง 

Tapioca.

Tapioca.

Pastel (พาสเทล) คล้ายกะหรี่ปั๊บของไทย แผ่นแป้งห่อใส้ ใส้มีหลากหลาย เช่น ใส้ไก่ ใส้เนื้อ ใส้ยอดปาล์ม ใส้ชีส ใส้พิซซ่า ใส้ปลาคอด นิยมทานเป็นของว่าง มีทั้งแบบอบและแบบทอด แต่ส่วนใหญ่บราซิเลี่ยนจะนิยมทานแบบทอด และบางร้านจะเสริฟพร้อมกับสลัดมะเขือเทศ เราสามารถเห็น ร้านขายพาสเตล ได้ตามตลาดนัด และพาสเตลมีขายในเบเกอรี่ทั่วไป

Pastel.

Pastel.

Salgados (เซา กา โดส) เป็นของว่าง ของทานเล่น มีหลากหลายชนิด หลายใส้ ใส้ไก้ ใส้ เนื้อ ใส้ปลา ใส้กุส่วนผสมแป้ง คือแป้งสาลี ผสมมันฝรั่ง ต้มบด แล้วห่อใส้ ชุปไข่ และเกร็ดขนมปังทอด นิยม เป็นของทานแล้วในงานเลี้ยง 
 
Coxinha.

Salgados: quibe, coxinha, bolinho de carne, risoles.

Costs of sending my stuff from Brazil to Australia


Hello,

Today I will give an update on the post What to get rid before leaving.

I recently asked the company G-inter for a quick cost estimation. I asked them to take in account a small list of goods: some musical instruments, a computer, and a TV. They answered my inquire promptly with a well written and polite e-mail. Unfortunately, the costs of sending my stuff to Australia are far higher than the value of the goods themselves. So I will obviously not hire them to do the job.

Service details


  • Maritime shipment
  • Customs management from origin to destination
  • Wooden liftvan (a big box) of about 3 m3
  • Weight 750 Lbs
  • Delivery at home address in Brisbane
  • Unpacking, placement, and package disposal


Costs


  • Shipment: US$ 4,060.00
  • Customs and taxes in Brazil: US$ 900.00
  • Customs and taxes in Australia: AUD 900.00
  • Assurance: 4% of the declared value
  • Estimated time: 80 days

Conclusion

  • You can notice that the provided service is quite complete. Once you hire them, you don't need to worry about anything.
  • Taking in account the information I could find on Internet and my first contact with them, I can presume that they provide high standards of service. I would certainly hire them if I were taking to Australia anything worth.
  • Sending goods to Australia is considerable expensive. I would not recommend anyone to do it unless you are taking something really expensive or something with sentimental value - which is not my case.
Cheers!

Wednesday, 15 October 2014

ประเทศบราซิลเขาขายอะไร บนท้องถนน


        ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่มีการเดินขายของตาม แยกไฟแดง เราอาจคุ้นเคยกับภาพ คนขายพวงมาลัย ขายหนังสือพิมพ์ ขายเรียงเบอร์ ขายผลไม้ ตามแยกไฟแดงที่เมืองไทย วันนี้จะพาไปดูว่า คนบราซิลเขาขายอะไรกัน เริ่มตั้งแต่ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ต่างๆ ขนมขบเคี้ยว ไอศครีม ลูกอม ช็อคโกแลต ผลไม้ ต่างๆ กระเทียม ตุ๊กตา เข็มขัด เคสโทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ ขนมปัง  สายชาจร์แบตโทรศัพท์หลากหลายยี่ห้อ(แฟนเคยซื้อครั้งนึง ปรากฏว่ามันใช้งานไม่ได้) ดูเป็นงานที่เสี่ยงมาก บ้างครั้งก็เห็นเด็กๆมาเดินเร่ขาย ไม่เข้าใจว่าพวกเขาถึงเลือกทำอาชีพนี้ (หรืออาจจะรายได้ดี หรือจะเป็นอาชีพเสริม เราก็แปลกใจ)




ปล.เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ต


ชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศบราซิล (ข้อมูลทั่วไป)


20 พฤษภาคม 2555 คือครั้งแรก ที่ฉันเดินทางมายังประเทศบราซิล 2ปีกว่าๆแล้ว ที่ใช้ชีวิตที่บราซิล อยู่กับสามีชาวบราซิลที่น่ารัก และฉันไม่ได้เดินทางมาประเทศบราซิลเพียงลำพัง ยังพาลูกสาวอายุ 8ขวบมาด้วย และอีกไม่นานนี้ ครอบครัวเล็กๆ กำลังจะย้ายไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนจากไปเลยอยากเขียนเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวกับประเทศบราซิล ในทัศนะของเราเอง



ข้อมูลทั่วไปของประเทศบราซิล (Brazil)

        เมืองหลวง :Brasilia (บราซิเลีย) หลายคนเข้าใจผิดว่า เซาเปาโล (São Paulo) คือเมืองหลวง เพราะเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
        ภาษาราชการ: Portuguese (โปรตุเกส)
        สกุลเงิน:เฮอัล (Real)

        ภูมิอากาศ: อากาศร้อนชื้นเกือบทั้งประเทศ ยกเว้นทางตอนใต้อากาศเย็น มีฤดูหนาวระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม พื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำอเมซอน และชายฝั่งมหาสมุทรมีความชื้นสูง มีฤดูฝนระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม เวลาช้ากว่าเวลาไทยประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง (จะเปลี่ยนเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมไปจนถึงวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี)   

        ภูมิประเทศ: เมืองที่เราอยู่ชื่อ São José dos Campos (เซา โจเซ่ โดส คามโพส) อยู่ในรัฐเซาเปาโล ห่างจากเซาเปาโล 80 กิโลเมตร เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นเมืองที่สวยงาม ค่อนข้างสะอาด สวยงาม กว่าหลายๆเมืองในบราซิล ลักษณะเป็นที่เนินเขา และทุ่งกว้าง สำหรับเลี้ยงสัตว์ และ เป็นที่เพาะปลูก ต้นยูคาลิปตัส ปลูกข้าว และปลูกอ้อย

จุดชมวิว ใกล้ตัวเมือง ค่ะ
เมืองใหญ่  แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ
ทุ่งกว้าง ๆ
ถนนเข้าตัวเมือง
พื้นที่ปลูกออ้ย เห็นแล้วคิดถึงบ้านจัง
เนินเขา ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์
ไร่ยูคาลิปตัส
มุมมองจากตึกสูงค่ะ
บรรยากาศใกล้ค่ำ ที่ São José dos Campos